1500 BCE - 2024
ประวัติศาสตร์พม่า
ประวัติศาสตร์ของเมียนมาร์หรือที่เรียกกันว่าพม่า ครอบคลุมช่วงเวลาตั้งแต่การตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ครั้งแรกเมื่อ 13,000 ปีก่อนจนถึงปัจจุบันผู้อยู่อาศัยในยุคแรกสุดในประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้คือผู้คนที่พูดภาษาทิเบต-พม่า ซึ่งก่อตั้งนครรัฐพยูซึ่งอยู่ห่างออกไปทางใต้ไปจนถึงเมืองแปร และรับเอาพุทธ ศาสนา นิกายเถรวาทอีกกลุ่มหนึ่งคือชาวบามาร์ เข้ามาในหุบเขาอิรวดีตอนบนในช่วงต้นศตวรรษที่ 9พวกเขาเดินหน้าสถาปนาอาณาจักรพุกาม (ค.ศ. 1044–1297) ซึ่งเป็นการรวมหุบเขาอิรวดีและบริเวณรอบนอกเป็นครั้งแรกภาษาพม่าและวัฒนธรรมพม่าเข้ามาแทนที่บรรทัดฐานของชาวพยูอย่างช้าๆ ในช่วงเวลานี้ภายหลังการรุกรานพม่าครั้งแรกของชาวมองโกลในปี ค.ศ. 1287 อาณาจักรเล็กๆ หลายแห่งซึ่งมีอาณาจักรเอวา อาณาจักรหงสาวดี อาณาจักรมรัคอู และรัฐฉานเป็นมหาอำนาจ ได้เข้ามาครอบงำภูมิทัศน์ ประกอบไปด้วยพันธมิตรที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และสงครามที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 16 ราชวงศ์ตองอู (ค.ศ. 1510–1752) ได้รวมประเทศเข้าด้วยกัน และสถาปนาอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงเวลาสั้นๆต่อมากษัตริย์เมืองตองอูได้ก่อตั้งการปฏิรูปการบริหารและเศรษฐกิจที่สำคัญหลายประการ ซึ่งก่อให้เกิดอาณาจักรที่มีขนาดเล็กลง สงบสุขมากขึ้น และเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นในศตวรรษที่ 17 และต้นศตวรรษที่ 18ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 18 ราชวงศ์คองบอง (พ.ศ. 2295-2428) ได้ฟื้นฟูอาณาจักร และดำเนินการปฏิรูปตองอูต่อไปซึ่งเพิ่มการปกครองส่วนกลางในภูมิภาครอบนอก และสร้างรัฐที่มีผู้รู้หนังสือมากที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียราชวงศ์ยังไปทำสงครามกับเพื่อนบ้านทั้งหมดด้วยสงครามอังกฤษ-พม่า (พ.ศ. 2367–2585) นำไปสู่การปกครองอาณานิคม ของอังกฤษ ในที่สุดการปกครองของอังกฤษนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการบริหารที่ยั่งยืนหลายประการ ซึ่งเปลี่ยนแปลงสังคมที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเกษตรกรรมไปโดยสิ้นเชิงการปกครองของอังกฤษเน้นย้ำถึงความแตกต่างนอกกลุ่มระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ มากมายของประเทศนับตั้งแต่ได้รับเอกราชในปี 1948 ประเทศนี้อยู่ในสงครามกลางเมืองที่ยาวนานที่สุดครั้งหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อความไม่สงบที่เป็นตัวแทนของกลุ่มชนกลุ่มน้อยทางการเมืองและชาติพันธุ์ และรัฐบาลกลางที่ต่อเนื่องกันประเทศนี้อยู่ภายใต้การปกครองของทหารภายใต้รูปแบบต่างๆ ตั้งแต่ปี 1962 ถึง 2010 และอีกครั้งตั้งแต่ปี 2021 ถึงปัจจุบัน และในกระบวนการที่ดูเหมือนเป็นวัฏจักรได้กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการพัฒนาน้อยที่สุดในโลก