สเปน เป็นพันธมิตรกับ
ฝรั่งเศส เพื่อต่อต้าน
สหราชอาณาจักร ตั้งแต่สนธิสัญญาซาน อิลเดฟอนโซครั้งที่สองในปี พ.ศ. 2339 หลังจากความพ่ายแพ้ของกองเรือสเปนและฝรั่งเศสที่รวมกันโดยอังกฤษในสมรภูมิทราฟัลการ์ในปี พ.ศ. 2348 รอยร้าวเริ่มปรากฏขึ้นในพันธมิตรด้วย สเปนเตรียมบุกฝรั่งเศสจากทางใต้ หลังเกิด
สงครามสัมพันธมิตรครั้งที่สี่ในปี 1806 สเปนเตรียมพร้อมสำหรับการรุกรานในกรณีที่ปรัสเซียได้รับชัยชนะ แต่การพ่ายแพ้ของกองทัพปรัสเซียของนโปเลียนใน
สมรภูมิเยนา-เอาเออร์ชเตดท์ ทำให้สเปนต้องถอยร่นอย่างไรก็ตาม สเปนยังคงไม่พอใจต่อการสูญเสียกองเรือของตนที่ทราฟัลการ์ และข้อเท็จจริงที่ว่าสเปนถูกบังคับให้เข้าร่วม
ระบบภาคพื้นทวีปอย่างไรก็ตาม พันธมิตรทั้งสองตกลงที่จะแบ่ง
โปรตุเกส ซึ่งเป็นคู่ค้าและพันธมิตรทางการค้าของอังกฤษมายาวนาน ซึ่งปฏิเสธที่จะเข้าร่วมระบบภาคพื้นทวีปนโปเลียนตระหนักดีถึงสภาวะหายนะของเศรษฐกิจและการบริหารของสเปน และความเปราะบางทางการเมืองเขาเชื่อว่ามันมีค่าเพียงเล็กน้อยในฐานะพันธมิตรในสถานการณ์ปัจจุบันเขายืนกรานที่จะวางกองทหารฝรั่งเศสในสเปนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรุกรานโปรตุเกสของฝรั่งเศส แต่เมื่อทำเสร็จแล้ว เขายังคงเคลื่อนกองทหารฝรั่งเศสเพิ่มเติมเข้าไปในสเปนโดยไม่มีวี่แววว่าจะรุกคืบเข้าไปในโปรตุเกสการปรากฏตัวของกองทหารฝรั่งเศสบนแผ่นดินสเปนไม่เป็นที่นิยมอย่างมากในสเปน ส่งผลให้ทูมุลต์แห่งอารันฆูเอซโดยผู้สนับสนุนของเฟอร์ดินานด์ รัชทายาทแห่งราชบัลลังก์พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 แห่งสเปนสละราชสมบัติในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2351 และนายกรัฐมนตรีมานูเอล เด โกดอยก็ถูกขับออกจากตำแหน่งเช่นกันพระเจ้าเฟอร์ดินานด์ทรงได้รับการประกาศให้เป็นกษัตริย์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเสด็จกลับกรุงมาดริดโดยทรงคาดหวังว่าจะได้ทำหน้าที่ในฐานะกษัตริย์นโปเลียน โบนาปาร์ตเรียกเฟอร์ดินานด์ไปที่เมืองบายอน ประเทศฝรั่งเศส และเฟอร์ดินานด์ไปโดยคาดหวังอย่างเต็มที่ว่าโบนาปาร์ตจะอนุมัติตำแหน่งกษัตริย์ของเขานโปเลียนยังเรียก Charles IV ซึ่งมาแยกกันนโปเลียนกดดันให้เฟอร์ดินานด์สละราชสมบัติแทนบิดา ซึ่งยอมสละราชสมบัติภายใต้การบังคับขู่เข็ญจากนั้นพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 ทรงสละราชสมบัติให้แก่นโปเลียน เนื่องจากพระองค์ไม่ต้องการให้พระราชโอรสที่ทรงดูแคลนเป็นรัชทายาทนโปเลียนวางโจเซฟน้องชายของเขาไว้บนบัลลังก์การสละราชสมบัติอย่างเป็นทางการได้รับการออกแบบมาเพื่อรักษาความชอบธรรมของพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่