ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1792 เป็นต้นมา
ฝรั่งเศส อยู่ในสถานะใกล้จะทำสงครามกับมหาอำนาจยุโรปที่สำคัญ ซึ่งเป็นผลมาจากการปฏิวัติฝรั่งเศสนโปเลียนซึ่งยึดอำนาจในปี ค.ศ. 1799 และปกครองฝรั่งเศสในฐานะเผด็จการ ได้ทำการรณรงค์ทางทหารหลายครั้งซึ่งส่งผลให้เกิดการสร้างอาณาจักรฝรั่งเศสแห่งแรกเริ่มตั้งแต่ปี 1803 สงครามนโปเลียนได้พิสูจน์ความสามารถของนโปเลียนเขาได้รับชัยชนะใน
สงครามแนวร่วมที่สาม (พ.ศ. 2346-2349 ซึ่งสลายจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์อายุพันปี)
สงครามแนวร่วมที่สี่ (พ.ศ. 2349-2350) และ
สงครามแนวร่วมที่ห้า (พ.ศ. 2352)ในปี 1807 นโปเลียนและอเล็กซานเดอร์ที่ 1 แห่งรัสเซียได้ลงนามใน
สนธิสัญญาทิลซิต บนแม่น้ำเนมันหลังจากชัยชนะของฝรั่งเศสที่
ฟรีดแลนด์สนธิสัญญาได้ค่อยๆ เสริมสร้างความเป็นพันธมิตรของรัสเซียกับฝรั่งเศส และทำให้นโปเลียนมีอำนาจเหนือเพื่อนบ้านทั้งหมดของพวกเขาข้อตกลงดังกล่าวทำให้รัสเซียเป็นพันธมิตรกับฝรั่งเศส และพวกเขายอมรับ
ระบบภาคพื้นทวีป ซึ่งเป็นการปิดล้อมสหราชอาณาจักรแต่สนธิสัญญาดังกล่าวทำให้รัสเซียลำบากทางเศรษฐกิจ และซาร์อเล็กซานเดอร์ออกจากการปิดล้อมภาคพื้นทวีปในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2353 บัดนี้นโปเลียนถูกกีดกันจากเครื่องมือนโยบายต่างประเทศที่สำคัญของเขาต่อสหราชอาณาจักรสนธิสัญญาเชินบรุนน์ซึ่งสิ้นสุดสงครามระหว่างออสเตรียและฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1809 มีมาตราการถอดกาลิเซียตะวันตกออกจากออสเตรียและผนวกเข้ากับราชรัฐวอร์ซอว์รัสเซียมองว่าสิ่งนี้ขัดแย้งกับผลประโยชน์ของตน เนื่องจากพวกเขาถือว่าดินแดนแห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่มีศักยภาพสำหรับการรุกรานของฝรั่งเศส