1975 Apr 17 - 1979 Jan 7
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กัมพูชา
Killing Fields, ផ្លូវជើងឯក, Phการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกัมพูชาเป็นการข่มเหงและสังหารพลเมืองกัมพูชาอย่างเป็นระบบโดยเขมรแดงภายใต้การนำของพล พต เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งกัมพูชาส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1.5 ถึง 2 ล้านคนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 ถึง พ.ศ. 2522 เกือบหนึ่งในสี่ของประชากรกัมพูชาในปี พ.ศ. 2518 (ประมาณ 7.8 ล้านคน)การสังหาร [หมู่] สิ้นสุดลงเมื่อกองทัพ เวียดนาม บุกเข้ามาในปี พ.ศ. 2521 และโค่นล้มระบอบการปกครองของเขมรแดงภายในเดือนมกราคม พ.ศ. 2522 มีผู้เสียชีวิต 1.5 ถึง 2 ล้านคนเนื่องจากนโยบายของเขมรแดง ซึ่งรวมถึงชาวจีนกัมพูชา 200,000–300,000 คน ชาวจามกัมพูชา 90,000–500,000 คน (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมุสลิม) [90] และชาวกัมพูชาเวียดนาม 20,000 คน[91] ผู้คน 20,000 คนเดินผ่านเรือนจำรักษาความปลอดภัย 21 ซึ่งเป็นหนึ่งในเรือนจำ 196 แห่งที่เขมรแดงดำเนินการ [92] และมีผู้ใหญ่เพียงเจ็ดคนเท่านั้นที่รอดชีวิตนักโทษถูกนำตัวไปที่ทุ่งสังหารซึ่งพวกเขาถูกประหารชีวิต (มักใช้พลั่ว เพื่อรักษากระสุน) [94] และฝังไว้ใน [หลุม] ศพหมู่การลักพาตัวและการปลูกฝังเด็กแพร่หลาย และหลายคนถูกชักชวนหรือถูกบังคับให้กระทำการโหดร้าย[95] ในปี พ.ศ. 2552 ศูนย์เอกสารของประเทศกัมพูชาได้จัดทำแผนที่หลุมศพจำนวนมาก 23,745 หลุม ซึ่งมีผู้ต้องสงสัยว่าเป็นเหยื่อของการประหารชีวิตประมาณ 1.3 ล้านคนเชื่อกันว่าการประหารชีวิตโดยตรงมีสาเหตุถึง 60% ของการเสียชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ [96] โดยเหยื่อรายอื่นๆ ยอมจำนนต่อความอดอยาก อ่อนเพลีย หรือเจ็บป่วยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ได้กระตุ้นให้ผู้ลี้ภัยหลั่งไหลออกมาเป็นครั้งที่สอง ซึ่งหลายคนหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ประเทศไทย และในจำนวนที่น้อยกว่านั้นก็หนีไปยังเวียดนาม[97]ในปีพ.ศ. 2544 รัฐบาลกัมพูชาได้จัดตั้งศาลเขมรแดงขึ้นเพื่อพิจารณาคดีสมาชิกผู้นำเขมรแดงที่รับผิดชอบต่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวกัมพูชาการพิจารณาคดีเริ่มขึ้นในปี 2552 และในปี 2557 นวน เจีย และเขียว สัมพันธ์ ถูกตัดสินลงโทษและได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต ฐานก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติที่เกิดขึ้นระหว่างการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
▲
●
อัปเดตล่าสุดThu Sep 14 2023