การปฏิวัติ
ฮังการี ค.ศ. 1956 เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ครุสชอฟจัดการถอดถอน Mátyás Rákosi ผู้นำสตาลินของฮังการีเพื่อตอบสนองต่อการลุกฮือของประชาชน รัฐบาลใหม่จึงได้ยุบตำรวจลับอย่างเป็นทางการ ประกาศเจตนารมณ์ที่จะถอนตัวจากสนธิสัญญาวอร์ซอ และให้คำมั่นที่จะสถาปนาการเลือกตั้งโดยอิสระอีกครั้งกองทัพโซเวียตก็บุกเข้ามาชาวฮังกาเรียนหลายพันคนถูกจับกุม ถูกคุมขัง และเนรเทศไปยังสหภาพโซเวียต และชาวฮังกาเรียนประมาณ 200,000 คนหนีออกจากฮังการีท่ามกลางความสับสนวุ่นวายอิมเร นากี ผู้นำฮังการีและคนอื่นๆ ถูกประหารชีวิตหลังการพิจารณาคดีลับเหตุการณ์ในฮังการีก่อให้เกิดความแตกแยกทางอุดมการณ์ภายในพรรคคอมมิวนิสต์ของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปตะวันตก โดยมีจำนวนสมาชิกลดลงอย่างมาก เนื่องจากหลายคนในประเทศตะวันตกและประเทศสังคมนิยมรู้สึกไม่แยแสกับการตอบโต้อันโหดร้ายของสหภาพโซเวียตพรรคคอมมิวนิสต์ในโลกตะวันตกไม่มีวันฟื้นตัวจากผลกระทบที่การปฏิวัติฮังการีมีต่อสมาชิกภาพของพวกเขา ข้อเท็จจริงที่บางคนยอมรับในทันที เช่น นักการเมืองยูโกสลาเวีย มิโลวาน ดีลาส ซึ่งไม่นานหลังจากการปฏิวัติถูกบดขยี้กล่าวว่า "บาดแผลที่ การปฏิวัติฮังการีที่เกิดขึ้นกับลัทธิคอมมิวนิสต์ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้อย่างสมบูรณ์"